เข้าสู่ช่วงกลางปี
2014 มีเทคโนโลยีใหม่
ๆ เกิดขึ้นมากมายกับโลกของสมาร์ทโฟนซึ่งแต่ละค่ายก็งัดเอาเทคโนโลยีใหม่ ๆ
มาต่อสู้ห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด เพื่อเอาใจสาวกของตนเอง
บทความนี้จะสรุปนวัตกรรมไอทีในปี 2013 ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
? ผู้เขียนได้อ่านนิตยสาร IT เล่มหนึ่งเขียนบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับนวัตกรรมไอที
ในปี 2013 น่าสนใจดีเลยนำมาฝากผู้อ่านกันครับ
ในแวดวง
IT มีความเปลี่ยนแปลงมากมายมหาศาล
ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัวของ “iPhone 5S” ที่มาพร้อมกับวงแหวนแสกนลายนิ้วมือ
หรือการกลับมาของ “Smart Watch”
นาฬิกาอัจฉริยะและสงครามฝั่งแท็บเล็ตที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งนิตยสารชื่อดังของอเมริกาอย่าง “TIME” ได้จัดอันดับ 10
นวัตกรรมเปลี่ยนโลก 2013 ออกมา
ลองมาดูกันสักนิดว่า ทั้ง 10 อันดับนี้มีอะไรบ้าง
หรือชิ้นไหนที่เล็ง ๆ เอาไว้กันบ้างหรือเปล่า ก่อนที่เราจะมาจะมาทำความเข้าใจกับเทคโนโลยีที่เราถวิลหากันอยู่ทุกวันนี้
และวางแผนที่จัดการกับเทคโนโลยีในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
 |
| รูปภาพจาก : www.engadget.com |
อันดับที่ 10 Nokia Lumia 1020
สุดยอดสมาร์ทโฟนจากฝั่งโนเกียที่หันมาร่วมมือกับไมโครซอฟท์สามารถคว้าอันดับที่
10 ไปได้อย่างงดงาม
ปัจจุบันนี้ไม่ว่ามือถือรุ่นไหนต่างก็ต้องใส่ “กล้องถ่ายรูป”
ดี ๆ เข้ามาด้วยกันทั้งนั้น ทว่า Lumia 1020 ต่างออกไป เพราะมันคือ “กล้องที่โทรออกได้” มากกว่า
ด้วยความละเอียด 41 ล้านพิกเซล และดีไซน์ที่ใช้งานแทนกล้องถ่ายรูปได้ถนัด
ทำให้ Lumia 1020 พาแบรนด์โนเกียกลับมาท้าสู้กับคู่แข่งสุดเก๋าอย่างแอนดรอยด์และ
iOS ได้ แม้แต่สาวก iPhone 5S เองก็ยังต้องยอมรับว่ารุ่นนี้มีกล้องดีเป็นที่
1 ในวงการมือถือปี 2013 แล้วจริง
 |
| รูปภาพจาก : www.digitaltrends.com |
อันดับ 9 Leap Motion Controller
อาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตาชาวไทยสักเท่าไร
แต่ Leap Motion
Controller มีความสามารถที่เหลือเชื่อมาก
ในขนาดกะทัดรัดแค่เท่ากับแฮนดี้ไดรฟ์หนึ่งอัน และราคาก็แค่ 80 เหรียญสหรัฐฯ หรือสองพันกว่าบาทเท่านั้น
การทำงานของ
Leap Motion
Controller ก็แค่เสียบมันเข้ากับ USB Port ของคอมพิวเตอร์
หลังจากนั้นเราก็จะสามารถสั่งการคอมพิวเตอร์ได้ด้วยการโบกมือไปมาในอากาศ
ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมส์หรือการพลิกหน้าหนังสือ E-Book โดย Leap
Motion Controller
จะวัดองศาการขยับมือของเราเองอัตโนมัติและอุปกรณ์ชิ้นนี้ยังถูกติดตั้งในคอมพิวเตอร์พกพารุ่นใหม่
ๆ พร้อมขายในปี 2014 นี้อีกด้วย
 |
| รูปภาพจาก : www.engadget.com |
อันดับที่ 8 Nest Protect
ผลงานชิ้นใหม่ของบริษัทสตาร์ทอัพเล็ก
ๆ ในสหรัฐฯ อย่าง “Nest
Protect” ก็สามารถพลิกอันดับขึ้นมาติด Top 10 ได้อย่างเหลือเชื่อ
ด้วยดีไซน์ที่สวยสะอาดตากับการทำงานที่ชาญฉลาดแต่ง่ายดาย ทำให้เครื่องตรวจจับควันละสารพิษคาร์บอนมอนอกไซด์
ราคาเพียง 130 เหรียญเครื่องนี้
กลายเป็นเทรนด์ใหม่ไปอย่างรวดเร็ว
หากในห้องของเรามีควันหรือสารพิษมากเกินไป
มันจะส่งเสียงเตือนออกมาเป็นเสียงผู้หญิงร้องทันทีนอกจากนี้เรายังสามารถปรับระดับการเตือนของสารพิษได้เอง
และ Nest Protect ก็ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนได้ด้วย
 |
| รูปภาพจาก : www.t3.com |
อันดับที่ 7 Kindle Fire HDX
ทายาทตระกูลแท็บเล็ตรุ่นที่
3 จากแบรนด์
“คินเดิล” เองก็คว้ารางวัลไปได้เช่นกัน ด้วยสองขนาด สองราคาที่ 239 เหรียญสำหรับรุ่น 7.0 นิ้ว และ 379 เหรียญ สำหรับรุ่น 8.9 นิ้ว โดยสิ่งที่ทำให้ Kindle
Fire ใหม่ทั้งสองตัวชิงอันดับมาได้คือ
ราคาที่แสนย่อมเยาเหมาะกับทุกคน และการทำงานของ Kindle Fire เองก็ยังง่ายดาย
ไม่ยุ่งยาก
นอกจากนี้
Kindle Fire ก็ยังมาพร้อมกับข้อมูลเสริมจำนวนมหาศาลไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เพลง
วิดีโอหรือเกมส์ที่ทาง Amazon มีอยู่ในมือดังนั้นแท็บเล็ตตระกูล Kindle จึงมีจุดขายพิเศษที่เหนือกว่าแท็บเล็ต แบรนด์อื่น ๆ ซึ่งทำได้แค่ขายฮาร์ดแวร์
แต่สำหรับเมืองไทยดูเหมือนว่า Kindle จะยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าฝั่ง
iPad
 |
| รูปภาพจาก : www.dvice.com |
อันดับที่ 6 Xbox One
Xbox คือเครื่องเกมส์จากไมโครซอฟท์ แต่เอาเข้าจริงมันเป็นสิ่งที่มากกว่าเครื่องเกมส์มาก
และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้ Time ยกอันดับ 6 ให้มันครับ ความสามารถของ Xbox One นั้นมากมายจริง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งกล้องวิดีโอในตัวเพื่อใช้งานวิดีโอคอลลิ่งผ่านทาง Skype
การเสริมระบบ TV ดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวีเข้ามา
การปรับปรุงอินเตอร์เฟสให้เข้ากับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8
นอกจากนี้
Xbox One ยังมาพร้อมกับเซนเซอร์ตัวใหม่ของ Kinect ที่จับการเคลื่อนไหวหลาย
ๆ อย่างได้ รวมทั้งการแยกแยะใบหน้า และวัดการเต้นของหัวใจ
 |
| รูปภาพจาก : 55phone.net |
อันดับที่ 5 Apple iPhone 5S
ถึงแม้
“iPhone 5S” จะเป็นแค่รุ่น “ไมเนอร์เชนจ์” ของ iPhone 5 รุ่นเก่า
แต่มันก็มาพร้อมนวัตกรรมใหม่ 2 อย่างที่ยังไม่เคยมีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนทำได้
เริ่มจาก “Touch ID” ที่เป็นระบบสแกนลายนิ้วมืออัจฉริยะใช้งานแม่นยำกว่าระบบฟริงเกอร์สแกนเก่า
ๆ ในอดีต ช่วยให้เจ้าของเครื่องล็อกข้อมูลส่วนตัวได้อย่างง่ายดาย
ต่อด้วยกล้อง
8 ล้านพิกเซลที่ชาญฉลาด
สามารถปรับโทนสีและอุณหภูมิของภาพได้เองอย่างถูกต้อง พร้อมด้วยไฟแฟลชคู่ Dual
LED และแน่นอนครับว่า iPhone 5S ยังคงเหนือกว่ามือถือรุ่นไหน
ๆ ด้วยดีไซน์และวัสดุชั้นเลิศ บวกกับระบบปฏิบัติการสุดเสถียรและ App คุณภาพสูงมากมายมหาศาล
 |
| รูปภาพจาก : smartwatchesuk.com |
อันดับที่ 4 Pebble Smart Wacth
เทรนด์ใหม่ที่มาแรงสุดในช่วงส่งท้ายปลายปี
2013 ลากยาวมาถึงต้นปี
2014 และจะฮิตกันต่อไปอีกยาว คงไม่มีอะไรเกิน “นาฬิกาอัจฉริยะ”
แล้วละครับ และ “Pebble Smart Wacth”
ก็ทำคะแนนได้ดีจนแซงหน้านาฬิกาจากแบรนด์ใหญ่ ๆ ทั้ง โซนี่และซัมซุงขาดลอย
ด้วยราคาเปิดตัวเพียง 150 เหรียญ [4,500 บาท] สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์และ iOS
ได้ เพื่อรับการเตือนต่าง ๆ ผ่านทางบลูทูธ ด้วยหน้าจอขาวดำแบบ “E-Ink”
ทำให้นาฬิกาสุดสมาร์ทเรือนนี้กินไฟต่ำ จึงสามารถสแตนด์บายได้นานกว่าคู่แข่ง
และทาง Pebble ยังเปิดให้ผู้พัฒนา App รายอื่นเขียนโปรแกรม
เพื่อนำมารันหรือใช้งานร่วมกับ Pebble Smart Wacth ได้อีกต่างหาก
 |
| รูปภาพจาก : www.display-central.com |
อันดับที่ 3 Oculus Rift Development Kit
ชุดพัฒนาเกมของ
Oculus Rift ชุดนี้ มีราคาเพียง 300 เหรียญหรือเก้าพันกว่าบาทเท่านั้น
แต่มันมาพร้อมกับชุดหูฟังครอบหัวที่จะเชื่อมต่อเราเข้าสู่โลกแห่งความจริงเสมือน [Virtual
Reality]
ด้วย
Oculus Rift Development
Kit ทำให้เราสามารถสร้างเกมส์ 3D สำหรับรันบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์
8 และแอนดรอยด์ได้อย่างง่ายดาย
พร้อมกับคุณสมบัติที่เหลือเชื่อหลายอย่างในเชิงสามมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเอี้ยวศีรษะมองไปหาศัตรูด้านหลังหรือการจำลองพื้นที่
3 มิติรอบตัวเราเป็นอาณาเขตของเกมส์
 |
| รูปภาพจาก : www.news.com |
อันดับที่ 2 Apple iPad Air และ iPad Mini 2
เปิดตัวมาคู่กันทั้งแบบ
7.9 นิ้วและ
9.7 นิ้ว พร้อมคุณสมบัติภายในที่ใกล้เคียงกัน
ทั้งฮาร์ดแวร์ละซอฟท์แวร์ รวมทั้งวัสดุและดีไซน์ชั้นเลิศ ทำให้ iPad ชุดใหม่ทั้งสองรุ่นคว้าอันดับ 2 ไปอย่างสง่างามครับ
เหตุผลที่ทำให้
iPad เหนือกว่าแท็บเล็ตรุ่นไหน
ๆ ก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็น App คุณภาพสูงเกือบ 500,000 ตัว แบตเตอรี่ทนทานใช้งานได้
10 ชั่วโมง ระบบปฏิบัติการ iOS 7 ที่สวยงามและใช้งานง่ายแม้แต่คนชราหรือคนที่ไม่เก่งเรื่องไอที
ไม่ว่าสิ่งที่กำลังมองหาจะเป็นจอใหญ่หรือจอเล็ก
แท็บเล็ตที่ชื่อ iPad
Air และ iPad Mini Retina [iPad Mini 2] ก็พร้อมตอบทุกความต้องการ
 |
| รูปภาพจาก : gearhungry.com |
อันดับที่ 1 Google Chomecast
อันดับ
1 ตกเป็นของกูเกิล
มีสารพัดแบรนด์ที่พยายามพัฒนาอุปกรณ์สำหรับสตรีมมิ่งไฟล์วิดีโอจากมือถือไปยังคอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์
แต่ไม่มีใครทำได้ดีเท่ากับ “Google Chromecast” ราคาเพียง 35
เหรียญสหรัฐฯ ชิ้นนี้
เหตุผลที่ทำให้
Chomecast คว้าอันดับ 1 ไปนั้นไม่ใช่ความสามารถแต่เป็นความง่ายในการใช้งาน
เพียงแค่เสียบมันเข้ากับช่อง HDMI ของทีวี
จากนั้นเราก็แค่เลือกไฟล์หนังหรือข้อมูลอื่น ๆ จากบนสมาร์ทโฟนและ คอมพิวเตอร์
เพื่อให้บินไปแสดงผลบนจอโทรทัศน์ ไม่ต้องมีสาย ไม่ต้องตั้งค่า และนั่นคือคำตอบว่า
ทำไม “Chomecast” จึงชนะเลิศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น