![]() |
วิวัฒนาการของ iOS |
iPhone OS1 จอทัชสกรีน รูดปื้ด รูดปื้ด
เปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2007 โดยใช้ชื่อเดิมคือ iPhone OS ไม่ใช่ iOS อย่างเช่นทุกวันนี้ มันถูกสร้างมาเพื่อให้ใช้ได้กับจอทัชสกรีนขนาด 3.5 นิ้วของ iPhone ซึ่งไม่ใช่โทรศัพท์จอทัชสกรีนเครื่องแรกตัวเครื่องไม่มีพอร์ท USB หรือ SD Card และไม่รองรับระบบ 3G แต่ User interface ที่เรียบง่ายและทำงานได้อย่างไหลลื่น เป็นเหตุผลที่ทำให้ iPhone กลายเป็นโทรศัพท์ที่ทุกคนอยากเป็นเจ้าของและเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติมาตรฐานใหม่ของ Smart Phone ที่ทุกค่ายเดินตามในเวอร์ชั่นนี้แอพที่มากับเครื่อง เช่น Mail, iPod, Calendar, Photos, Clock, Text, Safari, Notes, YouTube, Map, Setting, Camera, Stocks, และ Phone ไม่สามารถดาวน์โหลด App เพิ่มได้
iPhone OS2 App และ App Store
iPhone 3G เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกรกฎาคม 2008 พร้อมระบบปฏิบัติการ iPhone OS2ซึ่ง Apple ได้ปิดตัว App Store โดยได้ให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและพัฒนา App บน Beta เวอร์ชั่น ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2008 ซึ่งเมื่อ iPhone 3G เปิดตัวมาก็มี App Store ติดตั้งมาพร้อมกับ App ที่สามารถให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดไปเล่นได้ทันทีโดยไม่เสียเวลาiPhone OS3 กองทัพฟีเจอร์
iPhone 3Gs ถึงคิวเปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2009 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆบนระบบปฏิบัติการ iPhone OS3 เพื่อการใช้งานที่หลากหลายให้กับผู้ใช้ เช่น Notifications, Perental control, กล้องสามารถ tap to focus ได้, in-app purchases และ การสมัครสมาชิก Subscription, การค้นหาด้วย Spotlight, รวมทั้งการ Cut, Copy, Paste เป็นต้นมกราคม 2010 Apple ก็ได้เปิดตัว iPad ตัวแรกซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับคนทั่วโลก และเป็นต้นแบบให้ทุกวันนี้ทุกคนถือแท็บเล็ตกันทั่วบ้านทั่วเมือง ส่งผลให้ทาง Apple ต้องพัฒนา OS สำหรับ iPad โดยเฉพาะ เนื่องจากความละเอียดของหน้าจอแตกต่างกัน จึงมีการปรับ User interface ให้เหมาะสมกับการใช้งานบน iPad ซึ่งเวอร์ชั่นแรกที่ติดตั้งคือ iPhone OS 3.2 ซึ่งมีเวอร์ชั่นเหมือน iPhone 3GS
iOS4 มัลติทาส์คกิ้ง, โฟลเดอร์, FaceTime, AirPlay และ Game Center
iOS4 ถูกเปิดตัวมาพร้อมกับ iPhone 4 และเป็น OS ที่เปลี่ยนชื่อจาก iPhone OS เป็น iOS จากการมาของ iPad นั้นเอง ซึ่ง iPhone 4 เขย่าวงการด้วยหน้าจอแบบ Retina Display ในเดือนมิถุนายน 2010 ซึ่งใน iOS 4 นี้มีฟีเจอร์ใหม่กว่า 100 ฟีเจอร์ทีเดียว เช่น มิลติทาส์คกิ้ง, โฟลเดอร์, FaceTime, iBook, การสร้าง Playlist ใน Music App, Mail แบบใหม่, Game Center มาในเวอร์ชั่น 4.1 และ Air Play เวอร์ชั่น 4.2.1,ส่วน Personal Hotspot นั้นกว่าจะมีใช้ก็เวอร์ชั่น 4.2.5iOS5 iCloud , Notification Center , และ Siri
iPhone 4s ใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ iOS 5 เปิดตัวก่อนที่ Steve Jobs จะถึงแก่กรรม 2 วันเท่านั้น ในเวอร์ชั่นนี้มีฟีเจอร์เพิ่มเข้ามากว่า 200 ฟีเจอร์เลยทีเดียว ที่เด่นๆ น่าจะเป็น Notification Center, iMessenger, การ Sync ข้อมูลผ่าน Wi-Fi, การอัพเดท Firmware แบบ Over the air และที่สร้างความฮือฮามากเห็นจะเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคตคือ Siri ผู้ช่วยส่วนตัวiSO6 Facebook , Maps , Passbook
iPhone 5 ถือกำเนิดขึ้นในเดือน กันยายน 2512 ซึ่งมีการเพิ่มขนาดหน้าจอของ iPhone ให้ใหญ่ขึ้นจาก 3.5 นิ้วเป็น 4 นิ้ว เลยทีเดียว และมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการใหม่ iOS 6 ซึ่งถูกพัฒนามาโดยเฉพาะสำหรับ iPhone และ iPad 3, iPad mini ซึ่ง App ได้ใช้แผนที่ของตัวเอง Apple Map แทน Google map นอกจากนี้ยังมี Siri ที่เก่งกว่าเดิม มีการทำงานร่วมกับ Facebook และมีการให้บริการ Passbook ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสู่การทำ Mobile CommarceiSO 7 ดีไซน์ใหม่ ความสามารถใหม่
iPhone 5s ถือกำเนิดขึ้นพร้อมกับ iSO 7 ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดจาก Apple ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่หมด แต่ยังใช้งานง่ายเหมือน OS เวอร์ชั่นก่อนๆ สวยขึ้น และความคุ้นเคยต่างๆเหมือนเดิม ไอคอน ปุ่มกด รวมถึงการใช้งานต่างๆ App อื่นๆ ที่เกิดมากับ iPhone หรือ iPad ก็มีการออกแบบใหม่นอกจากนั้นยังมีการใช้ระดับชั้น (Layer) ที่ต่างกันของการแสดงผลหน้าจอ เพื่อสร้างมิติภาพและข้อมูลต่างๆ อีกด้วย ส่วนฟีเจอร์ใหม่ก็มี Control Center, iTunes Radio, Airdrop และอื่นๆ อีกมากมายจากที่กล่าวมาทั้งหมดผู้อ่านเห็นว่า iOS พัฒนาช้าเกินไปหรือไม่ ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเป็นที่พอใจของคุณหรือเปล่า แต่ยังไงก็แล้วแต่ปัจจุบัน iPhone คือโทรศัพท์ที่ใคร ๆ ก็ใช้ และก็มีอีกหลายคนที่คิดจะซื้อมาใช้แม้ราคาจะแพงและราคาไม่ตกเลยก็ตาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น