วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ประวัติกล้องดิจิตอล(ตอนจบ)

          จากตอนที่ 1 เราได้รู้ที่ไปที่มาของกล้องดิจิตอลกันมาบ้านแล้วนะครับ มาตอนนี้เราจะมาเล่าตอนจบของกล้องดิจิตอลกันนะครับว่า ตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมากล้องถ่ายรูปมีการพัฒนาต่อเนื่องอย่าไรบ้างก่อนที่มีกล้องดิจิตอลใช้กันอย่างทุกวันนี้
Kodak Photo CD
          ปี 1995  โกดัก ได้ปลุกกระแสทางด้านภาพดิจิตอลครั้งใหญ่ โดยการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ของโกดักที่เรียกว่า โฟโต้ซีดีเพียงส่งฟิล์มเนกาตีฟสีหรือฟิล์มสไลด์สีไปสแกนลงแผ่นซีดีรอม ก็จะได้ภาพดิจิตอล สำหรับนำมาใช้งานทันที
กล้อง Kodak DCS 3
          ปีเดียวกันโกดักร่วมมือกับแคนนอนเป็นครั้งแรกในการผลิตกล้องดิจิตอล SLR ในชื่อรุ่น EOS DCS 3 ใช้บอดี้ EOS-1N ซึ่งเป็นกล้องระดับมืออาชีพรุ่นสูงสุดของแคนนอนในยุคนั้น โดยใช้เซ็นเซอร์ภาพขนาด 16.4 x 20.5 มม. ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล แสดงสีได้ 36 บิต [RGB] ขนาดภาพ 1268x1012 พิกเซล ความไวแสง ISO 200 – 1600  และอีกรุ่นคือ EOS DCS – 1  เป็นกล้องที่มีความละเอียดสูงมากถึง 6 ล้านพิกเซล ใช้ CCD ขนาด  18.4x27.6 มม. ขนาดภาพ 3,060 x 2,036 พิกเซล จัดเก็บภาพด้วยฮาร์ดดิสก์ชนิดถอดออกได้ ความจุ 340 MB บันทึกภาพด้วยความละเอียดสูงได้ 53 ภาพ
กล้อง Casio QV-10
          ปีเดียวกัน Casio ได้เปิดตัวกล้องดิจิตอลสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่มีจอมอนิเตอร์ในตัวเป็นรุ่นแรกของโลก จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือส่วนของเลนส์ปรับพลิกหมุนได้ ใช้เซ็นเซอร์ CCD ขนาด 1/5 นิ้ว ความละเอียด 460 x 280 พิกเซล มีหน่วยความจำในตัวจัดเก็บภาพได้ 96 ภาพ มีช่องวีดีโอสำหรับเปิดชมภาพจากโทรทัศน์หรือเครื่องบันทึกวิดีโอเปิดชมภาพได้จากจอมอนิเตอร์ เลือกดูทีละภาพหรือภาพเล็ก 4/9 ภาพ
กล้อง Fujifilm DS-220
          ทางด้านฟูจิฟิล์มก็เปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่น DS-220 ระบบออโต้โฟกัสมีเลนส์ซูมในตัวขนาด 36 x 72 มม. มีแฟลชในตัวใช้ CCD ขนาดภาพ 640 x 480 พิกเซล และมีอุปกรณ์เสริมเป็นจอมอนิเตอร์สำหรับดูภาพต่อเข้าทางด้านข้าง
กล้อง Minolta RD-175 
          สำหรับ Minolta ได้เปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR ในรุ่น RD - 175 ใช้บอดี้จากกล้อง 35 มม. SLR รุ่น 500siเซ็นเซอร์ภาพ CCD ความละเอียด 380K ขนาดภาพ 1528 x 1146 พิกเซล ใช้ได้กับเลนส์และแฟลชของMinolta
กล้อง Ricoh RCD-1 
          Ricoh ผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพอีกรายได้ผลิตกล้องดิจิตอลที่สร้างความแปลกใหม่ ในรุ่น RDC-1 เป็นกล้องตัวแรกของโลกที่ถ่ายได้ทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียง มีจอมอนิเตอร์ LCD ขนาดใหญ่ถึง 2.5 นิ้ว จัดเก็บภาพ และเสียงด้วยพีซีการ์ดขนาด 24 MB
กล้อง Canon Powershot 600
          ปี 1996 นับเป็นปีที่มีกล้องดิจิตอลจากผู้ผลิตรายต่างๆ มากขึ้น อาทิ Agfa ePhoto  307 ความละเอียด 3แสนพิกเซล Canon Powershot 600 เซนเซอร์ CCD ขนาด 1/3 นิ้ว ความละเอียด 5 แสนพิกเซล Casio QV – 300 ความละเอียด 3 แสนพิกเซล Kodak DC 20 กล้องดิจิตอลราคาประหยัด ความละเอียด 1.8 แสนพิกเซล มีหน่วยความจำในตัวขนาด 1MB Fuji DS – 8 เซ็นเซอร์ 1/3 นิ้ว ความละเอียด 3 แสนพิกเซล ส่วนกล้องคอมแพคความละเอียดสูงก็มี Kodak DC – 120 ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล มีจอมอนิเตอร์ทางด้านหลัง เลนส์ซูมขนาด 38 – 114 มม. f/2.5 นอกจากนี้ Konica และ Kyocera ก็ได้เปิดตัวกล้องดิจิตอลของตัวเองเป็นครั้งแรกของปีนี้ โดยมีความละเอียด 3 แสนพิกเซล หรือ 640 x 480 พิกเซล เหมือนกล้องคอมแพคดิจิตอลทั่วไป ส่วน Nikon ก็สร้างความแปลกใหม่ด้วยการเปิดตัวกล้อง Coolpix 100 เซ็นเซอร์ 1/3  นิ้ว ใช้ CCD ที่ให้ขนาดภาพ 512 x 480 พิกเซล เลนส์ 52 มม. หลังจากถ่ายภาพแล้วนำกล้องไปเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คทางช่อง PCMCIA เพื่อโหลดภาพได้ทันทีและมีรุ่น Coolpix 300 ความละเอียด 3 แสนพิกเซล มีจอมอนเตอร์ทางด้านหลัง
กล้อง Olympus D-200L
          ในปีเดียวกันนี้ Olympus ได้เปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่น D – 200 L ใช้ CCD ความละเอียด 3 แสนพิกเซล และรุ่นอื่นๆ อีกหลายรุ่น รวมทั้งรุ่น 800 L ที่มีความละเอียด 8 แสนพิกเซล ส่วนกล้องความละเอียดระดับล้านพิกเซลก็มีของ Polaroid รุ่น PDC-2000
กล้อง Fujifilm DS-300
          ปี 1997 เป็นปีที่มีกล้องดิจิตอลจากผู้ผลิตนับสิบยี่ห้อ ทั้งจาก Nikon, Canon, Minolta, Olympus, Kodak, Fujifilm, Casio, Epson, Konica, Kyocera, Panasonic, Ricoh, Samsung, Sanyo, Sony, Sharp, Toshiba, Vivitar และอื่นๆ อีกมากมาย กล้องส่วนใหญ่ให้ขนาดภาพ 640 x 480 พิกเซล มีเพียงบางรุ่นที่เกิน 1 ล้านพิกเซล เช่น  Olympus Camedia C-1400L ความละเอียด 1.4 ล้านพิกเซล ออกแบบรูปทรงเป็นตัวแอล (L) คล้ายกับกล้อง SLR  Kodak DC210  ความละเอียด 1 ล้านพิกเซล จัดเก็บภาพด้วยการ์ด Fuji  DS-300 ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
กล้อง Kodak DCS-520
          ปี 1998 ในปีนี้กล้องดิจิตอลถูกผลิตขึ้นมากอีกกว่าหนึ่งเท่าตัว ส่วนใหญ่มีความละเอียด 1.2-1.5 ล้านพิกเซล โดยมีกล้องที่โดดเด่นคือดิจิตอล SLR ของโกดักทุกรุ่น DCS 520 ใช้บอดี้ Canon ES1N ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล จัดเก็บภาพด้วยฮาร์ดดิสก์ PCMCIA Type III 340 MB ส่วนกล้องสำหรับผู้ใช้ทั่วไปก็มีของ Canon Pro 70 เป็นกล้องแบบ SLR ที่มีรูปทรงสวยงามทันสมัย เลนส์ซูม 28 – 70 มม. มีฮอทชูเสียบแฟลชภายนอก ความละเอียด 1.5 ล้านพิกเซล ทางด้านโซนี่ก็เปิดตัว Mavica FD-71 ที่จัดเก็บภาพด้วยแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ ถ่ายภาพเสร็จนำแผ่นไปเปิดดูที่คอมพิวเตอร์ได้ทันที ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล และรุ่น FD-91 ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล
กล้อง Sony DCS-F505
 
กล้อง Nikon D1
          ปี 1999 ตลาดกล้องดิจิตอลเติบโตขึ้นมาก ในแต่ละเดือนมีกล้องรุ่นใหม่ๆหลายสิบรุ่น ส่วนใหญ่มีความละเอียดที่ 2 ล้านพิกเซล เพียงพอกับการนำไปอัดขยายภาพขนาด 4 x 6 นิ้ว ให้คุณภาพดีพอสมควรแม้ว่าจะยังห่างไกลกับการใช้ฟิล์ม แต่ก็พอยอมรับได้ และ Olympus ก็เปิดตัวกล้องตระกูล C เป็นครั้งแรกในรุ่น C-2020 Minolta เปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR  ใช้เลนส์จากกล้อง APS ได้รุ่น RD3000 ความละเอียด 2.7ล้านพิกเซล Canon ก็มีกล้องคอมแพคขนาดเล็กรูปทรงสวยงามมากในชื่อรุ่น Powershot S10 ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล ค่าย Sony เปิดตัว DCS-F505 กล้องรูปทรงตัวแอล (L) บอดี้กับเลนส์ปรับพลิกหมุนได้ เรียกความสนใจได้มากทีเดียวและเน้นการจัดเก็บภาพด้วยการ์ดที่พัฒนาขึ้นมาเองเรียกว่าMemory Stick ส่วน Nikon ก็เปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR  ระดับอาชีพที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างน่าทึ่งรุ่น D1 ความละเอียด 2.7 ล้านพิกเซล ใช้พื้นฐานมาจากกล้องฟิล์มระดับโปรรุ่น F100 และF5 ใช้ได้กับเลนส์ แฟลชและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักถ่ายภาพมืออาชีพทั่วโลก
กล้อง Sony DSC-F828
          ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน กล้องดิจิตอลมีการพัฒนาอย่างมาก ในแต่ละปีมีกล้องรุ่นใหม่ๆ จากหลายสิบยี่ห้อนับร้อยรุ่น ตั้งแต่กล้องคอมแพคตัวเล็กๆ จนถึงกล้องรุ่นใหญ่สำหรับมืออาชีพ ความละเอียดเพิ่มมากขึ้นจาก 2, 3, 4 เป็น 5 ล้านพิกเซล กล้องคอมแพคบางรุ่นในวันนี้ เช่น Sony DSC-F828 มีความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล ส่วนดิจิตอล SLR ก็ขึ้นไปถึง 14 ล้านพิกเซลใน Kodak DSC-Pro 14n
กล้อง Kodak DSC-Pro 14n
          กล้องรูปทรงแปลกๆ ใหม่ๆ ถูกผลิตออกมามากมาย บางรุ่นบางเฉียบเหมือนบัตรเครดิต บางรุ่นหน้าตาแทบไม่ต่างกับกล้องใช้ฟิล์ม แต่ที่น่าสนใจมากคือในขณะที่คุณภาพดีมากขึ้น ราคากลับลดลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกล้องดิจิตอล SLR ระดับ 6 ล้านพิกเซล จากราคานับล้านบาทเมื่อสี่ปีก่อน เหลือไม่ถึงห้าหมื่นบาทในปีนี้ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การ์ด CF 128 MB ที่มีราคาประมาณ 20,000 บาท ในปี 2000 ถึงปีนี้ลดเหลือเพียงพันกว่าบาทเท่านั้น ส่งผลให้ตลาดกล้องดิจิตอลมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากเดิมในปี 1996 มียอดขายกล้องดิจิตอลทั่วไปประมาณ 1 ล้านตัว แต่ในปี 2002 ที่ผ่านมามียอดขายนับแสนตัวและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน


ที่มา: shutterphoto.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น