จากตอนที่ 1 เราได้รู้ที่ไปที่มาของกล้องดิจิตอลกันมาบ้านแล้วนะครับ มาตอนนี้เราจะมาเล่าตอนจบของกล้องดิจิตอลกันนะครับว่า ตั้งแต่ปี 1994 เป็นต้นมากล้องถ่ายรูปมีการพัฒนาต่อเนื่องอย่าไรบ้างก่อนที่มีกล้องดิจิตอลใช้กันอย่างทุกวันนี้
 |
Kodak Photo CD |
ปี 1995 โกดัก ได้ปลุกกระแสทางด้านภาพดิจิตอลครั้งใหญ่ โดยการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ของโกดักที่เรียกว่า โฟโต้ซีดีเพียงส่งฟิล์มเนกาตีฟสีหรือฟิล์มสไลด์สีไปสแกนลงแผ่นซีดีรอม ก็จะได้ภาพดิจิตอล สำหรับนำมาใช้งานทันที
 |
กล้อง Kodak DCS 3 |
ปีเดียวกันโกดักร่วมมือกับแคนนอนเป็นครั้งแรกในการผลิตกล้องดิจิตอล SLR ในชื่อรุ่น EOS DCS 3 ใช้บอดี้ EOS-1N ซึ่งเป็นกล้องระดับมืออาชีพรุ่นสูงสุดของแคนนอนในยุคนั้น โดยใช้เซ็นเซอร์ภาพขนาด 16.4 x 20.5 มม. ความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล แสดงสีได้ 36 บิต [RGB] ขนาดภาพ 1268x1012 พิกเซล ความไวแสง ISO 200 – 1600 และอีกรุ่นคือ EOS DCS – 1 เป็นกล้องที่มีความละเอียดสูงมากถึง 6 ล้านพิกเซล ใช้ CCD ขนาด 18.4x27.6 มม. ขนาดภาพ 3,060 x 2,036 พิกเซล จัดเก็บภาพด้วยฮาร์ดดิสก์ชนิดถอดออกได้ ความจุ 340 MB บันทึกภาพด้วยความละเอียดสูงได้ 53 ภาพ
 |
กล้อง Casio QV-10 |
ปีเดียวกัน Casio ได้เปิดตัวกล้องดิจิตอลสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่มีจอมอนิเตอร์ในตัวเป็นรุ่นแรกของโลก จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือส่วนของเลนส์ปรับพลิกหมุนได้ ใช้เซ็นเซอร์ CCD ขนาด 1/5 นิ้ว ความละเอียด 460 x 280 พิกเซล มีหน่วยความจำในตัวจัดเก็บภาพได้ 96 ภาพ มีช่องวีดีโอสำหรับเปิดชมภาพจากโทรทัศน์หรือเครื่องบันทึกวิดีโอเปิดชมภาพได้จากจอมอนิเตอร์ เลือกดูทีละภาพหรือภาพเล็ก 4/9 ภาพ
 |
กล้อง Fujifilm DS-220 |
ทางด้านฟูจิฟิล์มก็เปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่น DS-220 ระบบออโต้โฟกัสมีเลนส์ซูมในตัวขนาด 36 x 72 มม. มีแฟลชในตัวใช้ CCD ขนาดภาพ 640 x 480 พิกเซล และมีอุปกรณ์เสริมเป็นจอมอนิเตอร์สำหรับดูภาพต่อเข้าทางด้านข้าง
 |
กล้อง Minolta RD-175 |
สำหรับ Minolta ได้เปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR ในรุ่น RD - 175 ใช้บอดี้จากกล้อง 35 มม. SLR รุ่น 500siเซ็นเซอร์ภาพ CCD ความละเอียด 380K ขนาดภาพ 1528 x 1146 พิกเซล ใช้ได้กับเลนส์และแฟลชของMinolta
 |
กล้อง Ricoh RCD-1 |
Ricoh ผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพอีกรายได้ผลิตกล้องดิจิตอลที่สร้างความแปลกใหม่ ในรุ่น RDC-1 เป็นกล้องตัวแรกของโลกที่ถ่ายได้ทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียง มีจอมอนิเตอร์ LCD ขนาดใหญ่ถึง 2.5 นิ้ว จัดเก็บภาพ และเสียงด้วยพีซีการ์ดขนาด 24 MB
 |
กล้อง Canon Powershot 600 |
ปี 1996 นับเป็นปีที่มีกล้องดิจิตอลจากผู้ผลิตรายต่างๆ มากขึ้น อาทิ Agfa ePhoto 307 ความละเอียด 3แสนพิกเซล Canon Powershot 600 เซนเซอร์ CCD ขนาด 1/3 นิ้ว ความละเอียด 5 แสนพิกเซล Casio QV – 300 ความละเอียด 3 แสนพิกเซล Kodak DC 20 กล้องดิจิตอลราคาประหยัด ความละเอียด 1.8 แสนพิกเซล มีหน่วยความจำในตัวขนาด 1MB Fuji DS – 8 เซ็นเซอร์ 1/3 นิ้ว ความละเอียด 3 แสนพิกเซล ส่วนกล้องคอมแพคความละเอียดสูงก็มี Kodak DC – 120 ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล มีจอมอนิเตอร์ทางด้านหลัง เลนส์ซูมขนาด 38 – 114 มม. f/2.5 นอกจากนี้ Konica และ Kyocera ก็ได้เปิดตัวกล้องดิจิตอลของตัวเองเป็นครั้งแรกของปีนี้ โดยมีความละเอียด 3 แสนพิกเซล หรือ 640 x 480 พิกเซล เหมือนกล้องคอมแพคดิจิตอลทั่วไป ส่วน Nikon ก็สร้างความแปลกใหม่ด้วยการเปิดตัวกล้อง Coolpix 100 เซ็นเซอร์ 1/3 นิ้ว ใช้ CCD ที่ให้ขนาดภาพ 512 x 480 พิกเซล เลนส์ 52 มม. หลังจากถ่ายภาพแล้วนำกล้องไปเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คทางช่อง PCMCIA เพื่อโหลดภาพได้ทันทีและมีรุ่น Coolpix 300 ความละเอียด 3 แสนพิกเซล มีจอมอนเตอร์ทางด้านหลัง
 |
กล้อง Olympus D-200L |
ในปีเดียวกันนี้ Olympus ได้เปิดตัวกล้องดิจิตอลรุ่น D – 200 L ใช้ CCD ความละเอียด 3 แสนพิกเซล และรุ่นอื่นๆ อีกหลายรุ่น รวมทั้งรุ่น 800 L ที่มีความละเอียด 8 แสนพิกเซล ส่วนกล้องความละเอียดระดับล้านพิกเซลก็มีของ Polaroid รุ่น PDC-2000
 |
กล้อง Fujifilm DS-300 |
ปี 1997 เป็นปีที่มีกล้องดิจิตอลจากผู้ผลิตนับสิบยี่ห้อ ทั้งจาก Nikon, Canon, Minolta, Olympus, Kodak, Fujifilm, Casio, Epson, Konica, Kyocera, Panasonic, Ricoh, Samsung, Sanyo, Sony, Sharp, Toshiba, Vivitar และอื่นๆ อีกมากมาย กล้องส่วนใหญ่ให้ขนาดภาพ 640 x 480 พิกเซล มีเพียงบางรุ่นที่เกิน 1 ล้านพิกเซล เช่น Olympus Camedia C-1400L ความละเอียด 1.4 ล้านพิกเซล ออกแบบรูปทรงเป็นตัวแอล (L) คล้ายกับกล้อง SLR Kodak DC210 ความละเอียด 1 ล้านพิกเซล จัดเก็บภาพด้วยการ์ด Fuji DS-300 ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล
 |
กล้อง Kodak DCS-520 |
ปี 1998 ในปีนี้กล้องดิจิตอลถูกผลิตขึ้นมากอีกกว่าหนึ่งเท่าตัว ส่วนใหญ่มีความละเอียด 1.2-1.5 ล้านพิกเซล โดยมีกล้องที่โดดเด่นคือดิจิตอล SLR ของโกดักทุกรุ่น DCS 520 ใช้บอดี้ Canon ES1N ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล จัดเก็บภาพด้วยฮาร์ดดิสก์ PCMCIA Type III 340 MB ส่วนกล้องสำหรับผู้ใช้ทั่วไปก็มีของ Canon Pro 70 เป็นกล้องแบบ SLR ที่มีรูปทรงสวยงามทันสมัย เลนส์ซูม 28 – 70 มม. มีฮอทชูเสียบแฟลชภายนอก ความละเอียด 1.5 ล้านพิกเซล ทางด้านโซนี่ก็เปิดตัว Mavica FD-71 ที่จัดเก็บภาพด้วยแผ่นฟล็อปปี้ดิสก์ ถ่ายภาพเสร็จนำแผ่นไปเปิดดูที่คอมพิวเตอร์ได้ทันที ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล และรุ่น FD-91 ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล
 |
กล้อง Sony DCS-F505 |
 |
กล้อง Nikon D1 |
ปี 1999 ตลาดกล้องดิจิตอลเติบโตขึ้นมาก ในแต่ละเดือนมีกล้องรุ่นใหม่ๆหลายสิบรุ่น ส่วนใหญ่มีความละเอียดที่ 2 ล้านพิกเซล เพียงพอกับการนำไปอัดขยายภาพขนาด 4 x 6 นิ้ว ให้คุณภาพดีพอสมควรแม้ว่าจะยังห่างไกลกับการใช้ฟิล์ม แต่ก็พอยอมรับได้ และ Olympus ก็เปิดตัวกล้องตระกูล C เป็นครั้งแรกในรุ่น C-2020 Minolta เปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR ใช้เลนส์จากกล้อง APS ได้รุ่น RD3000 ความละเอียด 2.7ล้านพิกเซล Canon ก็มีกล้องคอมแพคขนาดเล็กรูปทรงสวยงามมากในชื่อรุ่น Powershot S10 ความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล ค่าย Sony เปิดตัว DCS-F505 กล้องรูปทรงตัวแอล (L) บอดี้กับเลนส์ปรับพลิกหมุนได้ เรียกความสนใจได้มากทีเดียวและเน้นการจัดเก็บภาพด้วยการ์ดที่พัฒนาขึ้นมาเองเรียกว่าMemory Stick ส่วน Nikon ก็เปิดตัวกล้องดิจิตอล SLR ระดับอาชีพที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างน่าทึ่งรุ่น D1 ความละเอียด 2.7 ล้านพิกเซล ใช้พื้นฐานมาจากกล้องฟิล์มระดับโปรรุ่น F100 และF5 ใช้ได้กับเลนส์ แฟลชและอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักถ่ายภาพมืออาชีพทั่วโลก
 |
กล้อง Sony DSC-F828 |
ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน กล้องดิจิตอลมีการพัฒนาอย่างมาก ในแต่ละปีมีกล้องรุ่นใหม่ๆ จากหลายสิบยี่ห้อนับร้อยรุ่น ตั้งแต่กล้องคอมแพคตัวเล็กๆ จนถึงกล้องรุ่นใหญ่สำหรับมืออาชีพ ความละเอียดเพิ่มมากขึ้นจาก 2, 3, 4 เป็น 5 ล้านพิกเซล กล้องคอมแพคบางรุ่นในวันนี้ เช่น Sony DSC-F828 มีความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล ส่วนดิจิตอล SLR ก็ขึ้นไปถึง 14 ล้านพิกเซลใน Kodak DSC-Pro 14n
 |
กล้อง Kodak DSC-Pro 14n |
กล้องรูปทรงแปลกๆ ใหม่ๆ ถูกผลิตออกมามากมาย บางรุ่นบางเฉียบเหมือนบัตรเครดิต บางรุ่นหน้าตาแทบไม่ต่างกับกล้องใช้ฟิล์ม แต่ที่น่าสนใจมากคือในขณะที่คุณภาพดีมากขึ้น ราคากลับลดลงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกล้องดิจิตอล SLR ระดับ 6 ล้านพิกเซล จากราคานับล้านบาทเมื่อสี่ปีก่อน เหลือไม่ถึงห้าหมื่นบาทในปีนี้ รวมไปถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น การ์ด CF 128 MB ที่มีราคาประมาณ 20,000 บาท ในปี 2000 ถึงปีนี้ลดเหลือเพียงพันกว่าบาทเท่านั้น ส่งผลให้ตลาดกล้องดิจิตอลมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด จากเดิมในปี 1996 มียอดขายกล้องดิจิตอลทั่วไปประมาณ 1 ล้านตัว แต่ในปี 2002 ที่ผ่านมามียอดขายนับแสนตัวและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น