วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

ตอบปัญหาคาใจผู้ที่อยากใช้ iPhone 6

          
          ในที่สุดการรอคอยก็จบสิ้นลง เมื่อ ทิม คุก ลุกขึ้นมาสร้าง “iPhone 6” และ “iPhone 6 Plus” จอใหญ่ 4.7 นิ้วและ 5.5 นิ้วจริงตามข่าวลือ เชื่อว่าหลายคนคงต้องมีคำถามในใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคา, วันเวลาวางจำหน่าย ไปจนถึงความคุ้มค่ารวมไปถึงคำถามว่าน่ารอไหม หรือจะหันกลับไปซื้อไอโฟนรุ่นเก่าที่ปรับค่าตัวลงมาดี ? วันนี้ผู้เขียนจึงได้รวบรวมคำถามยอดนิยม ที่หลายคนเคลือบแคลงสงสัยกัน มาดูว่ามีอะไรบ้าง ?

     iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ต่างกันตรงไหนบ้าง ?

          ความต่างของสองรุ่นนี้ สรุปสั้น ๆ ก็คือ “จอภาพ” นั่นเองแต่แน่นอนครับว่าขนาดจอก็ย่อมส่งผลถึงขนาดของเครื่อง รวมทั้งความจุของแบตเตอรี่และการใช้งานมือเดียวตามไปด้วย โดยจุดหลักที่แตกต่างระหว่าง iPhone และ iPhone 6 Plus มีทั้งหมด 6 ข้อด้วยกัน ได้แก่
          ขนาดจอภาพ : ระหว่าง 4.7 นิ้ว [1334 x 750 พิกเซล] และ 5.5 นิ้ว [1920 x 1080 พิกเซล] 
          แบตเตอรี่ : ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าทั้งสองรุ่นใช้แบตเตอรี่ความจุเท่าใด แต่ตามข้อมูลของ Apple Store ระบุว่า iPhone 6 Plus ใช้งานทุก ๆ ด้านได้นานกว่า iPhone 6
          กล้อง : เฉพาะ  iPhone 6 Plus  เท่านั้นที่มีระบบกันสั่นแบบออปติคัล [OIS – Optical Image Stabilization] ในขณะที่ iPhone 6 จะเป็นระบบกันสั่นแบบแบบดิจิตอล
          ขนาด : iPhone 6 มีขนาด 67 x 138.1 x 6.9 มิลลิเมตร แต่ iPhone 6 Plus มีมิติตัวเครื่องที่ 77.8 x 158.1 x 7.1 มิลลิเมตร
          น้ำหนัก : iPhone 6 รุ่นเล็กหนักเพียง 129 กรัม แต่ iPhone 6 Plus จะหนักถึง 172 กรัม
          ราคา : ที่ต่างประเทศจะวาง iPhone 6 Plus แพงกว่า iPhone 6 เล็กน้อย ซึ่งในไทยเราก็น่าจะเหมือนกัน โดย iPhone 6 ที่ฮ่องกงเปิดราคาราว 23,900 บาท แต่ iPhone 6 Plus อยู่ที่ 27,400 บาท
          ที่เหลือไม่มีความแตกต่างใด ๆ ไม่ว่าจะเป็น ซีพียูตัวใหม่ที่ชื่อ “A8” แบบ “64 Bit” หรือส่วนประมวลผลรอง “M8” และความละเอียดกล้องที่ 8 ล้านพิกเซล รวมทั้งดีไซน์และวัสดุโดยรวม หรือแม้แต่ความจุก็มีให้เลือกสรรตั้งแต่ 16, 32,และ 128 GB พร้อม 3 สีตามรสนิยม ทั้งขาว, ดำ และทอง
          หากถามว่าแล้ว iPhone 6 รุ่นไหนดีกว่ากัน ? ก็ตอบยากครับ เช่นเดียวกับ Galaxy S5 และ Galaxy Note 4 เพราะไม่ใช่ทุกคนที่อยากได้ “สมาร์ทโฟนลูกครึ่งแท็บเล็ต” ซึ่งอาจจะใหญ่กว่าจะใช้งานมือเดียวได้ [แม้ iPhone 6 Plus จะมีโหมด One Hand ใส่มาด้วยก็ตาม] 

     iPhone 6 ขายจริงเมื่อไร ?

          ณ ตอนนี้คงมีหลายท่านที่ได้สัมผัส iPhone 6 ของจริงกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะคนที่อยู่ต่างประเทศหรือมีธุระต้องบินบ่อย ๆ เพราะ iPhone 6 มีกำหนดจองวันที่ 12 – 13 กันยายน และขายจริงหน้าศูนย์ Apple Store ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2014
          ทว่ามีเฉพาะกลุ่มประเทศโลกที่ 1 ทั้ง 9 ประเทศเท่านั้น ซึ่งก็ได้แก่ ญี่ปุ่น, สหรัฐฯ, อังกฤษ, เยอรมัน, ฝรั่งเศส, ฮ่องกง, ออสเตรเลีย, แคนาดา และสิงคโปร์ ถ้าเอาไกลบ้านเราที่สุดคงไม่พ้นสิงคโปร์และฮ่องกงครับ แต่ในช่วงแรกทาง Apple จำกัดจำนวนการซื้อต่อคนด้วย บางประทศจะอนุญาตให้จับจองเป็นเจ้าของโดยไม่เกินคนละสองเครื่อง !!!

     หิ้ว iPhone 6 จากเมืองนอกได้ไหม ?

          คำตอบคือได้ครับ แต่ต้องระวังเล็กน้อย เพราะมือถือในบางประเทศจะ “ติดล็อก” อย่างในฝรั่งเศส หรือญี่ปุ่นเองที่มีทั้งเครื่องแบบ “ซิมฟรี” และ “ติดล็อก” เช่นกัน โดยจะขึ้นกับเครือข่ายและสถานที่จัดจำหน่าย
          ดังนั้นพ่อค้าส่วนใหญ่ในบ้านเราจึงนิยมบินไปซื้อ iPhone รุ่นใหม่ที่ “สิงคโปร์” และ “ฮ่องกง” มากที่สุด เพราะสองประเทศนี้ขายไอโฟนแบบไม่ติดล็อก จึงนำกลับมาใช้งานในไทยได้ทันที แต่ก็ยังเสี่ยงนิด ๆ อยู่ดีเพราะประกันของไอโฟนไม่ครอบคลุมทั่วโลก หากเครื่องเสียระหว่างใช้งานก็ต้องบินกลับไปเคลมยังประเทศที่ซื้อมาครับ

     แล้ว iPhone จะเข้าไทยเมื่อไร ?

          ต่อจากกลุ่มโลกที่ 1 ในเดือนกันยายน ก็จะเป็นกลุ่มที่สองช่วงเดือนตุลาคม และกลุ่มที่ 3 คาดว่าจะเป็นเดือนธันวาคมครับ ยังไม่มีความแน่นอนว่าไทยจะติดกลุ่มใด แต่อย่างช้าที่สุดก็มั่นใจได้ว่า จะได้เห็น iPhone 6 ทั้งสองรุ่นเข้ามาทำตลาดภายในปี 2014 นี้แน่นอน

     ราคา iPhone 6 แพงขึ้นจริงหรือไม่ ?

          จากการตรวจสอบราคาจากหลาย ๆ ประเทศแล้วพบว่าไม่มีความแตกต่างจากสมัย iPhone 5S ครับ ทั้งในประเทศที่ขายเครื่องติดสัญญาอย่างสหรัฐฯ ก็เริ่มที่ 199 เหรียญสหรัฐฯ เหมือนสมัย iPhone 5S สำหรับ iPhone 6 16 GB แบบ 4.7 นิ้วและเมื่อลองดูราคาไอโฟน 6 ที่ฮ่องกงแบบเครื่องเปล่าก็ได้ผลออกมาดังนี้
          - iPhone 6 16 GB : ราคา 5,588 HKD = 23,900 บาท
          - iPhone 6 64 GB : ราคา 6,388 HKD = 26,900 บาท
          - iPhone 6 128 GB : ราคา 7,188 HKD = 29,900 บาท
          - iPhone 6 Plus 16 GB : ราคา 6,388 HKD = 26,900 บาท
          - iPhone 6 Plus 64 GB : ราคา 7,188 HKD = 29,900 บาท
          - iPhone 6 Plus 128 GB : ราคา 8,088 HKD = 33,900 บาท
          สมัย iPhone 5S ออกใหม่ ๆ เราพบว่าราคาไทยจะแพงกว่าฮ่องกงราว 400 – 600 บาท ดังนั้นก็ฟันธงได้ค่อนข้างแน่นอนเลยด้วยครับว่า เมื่อ iPhone 6 เข้าไทยมาจริง ๆ ค่าตัวน่าจะอยู่แถว ๆ 24,300 – 24,500 บาท ใครสนใจก็มีเวลาพักใหญ่ ๆ ในการเก็บเงินครับ

     หรือจะซื้อ iPhone 5C / iPhone 5S ราคาดิ่ง ?

          ทันทีที่ iPhone 6 เปิดตัวเสร็จ ราคา iPhone 5C และ iPhone 5S บน Apple Store ออนไลน์ทั่วโลกก็ปรับราคาลงอย่างเป็นทางการ รวมทั้งในไทยที่ยังไม่มีกำหนดการขายไอโฟน 6 ด้วยซ้ำ
          ปัจจุบันราคาของ iPhone 5C รุ่น 8 GB จึงเริ่มที่ 14,900 บาท และ iPhone 5S 16 GB ก็อยู่ที่ 19,900 บาทเท่านั้นครับ หาก iPhone 6 เข้ามาในบ้านเราโดยอิงราคาฮ่องกงจริง ก็น่าจะอยู่ที่ 24,300 – 24,500 บาทโดยประมาณ แปลว่าไอโฟนทั่งสามรุ่นจะมีส่วนต่างเท่า ๆ กันที่ราว 5,000 บาท ถ้าใครไม่ได้เน้นว่าจะต้องใช้ไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด หรือจอใหญ่ 4.7 – 5.5 นิ้วจริงละก็ ตอนนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีมากหากจะซื้อ iPhone 5C และ iPhone 5S เพราะถึงรอให้ iPhone 6 เข้าไทยก็คงไม่มีการปรับราคารุ่นเก่าลงไปมากกว่านี้อยู่ดี แม้สเปกของ iPhone 5C และ iPhone 5S จะต่ำกว่า iPhone 6 แต่ทว่ามันก็เพียงพอแหลือเฟือแล้วสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไป ทั้งถ่ายภาพ, เล่นอินเทอร์เน็ต และใช้งานเกมส์กับ App
          แถมยังซื้อได้วันนี้ ไม่ต้องรอลุ้นสิ้นปีเหมือน iPhone 6 ด้วย แต่ถ้าใครยังลังเลก็แนะนำว่าลองอ่าน เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่ว่าด้วย iPhone 6 ทั้งสองรุ่นก่อนก็ได้



ที่มา : techmoblog.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น